Friday, 2 October 2015

สรุปการเรียนรู้ week 7

สรุปการเรียนรู้ week 7
          -ได้เรียนรู้เรื่องการออกแบบวงจร Sequential logic เนื่องจาก Sequential logic เป็นวงจรในรูปแบบของการเก็บค่า เก็บ stage การทำงาน ดังนั้น เราควรจะกำหนดคุณลักษณะของการทำงานที่ชัดเจนก่อน โดยการแปลงคุณลักษณะดังที่กล่าวถึงให้อยู่ในรูป State Diagram ดังรูป


          โดยวงกลมคือ State ภายในวงกลมส่วนบนจะเป็นการระบุชื่อใช้อธิบาย State นั้นๆ และด้านล่างจะเป็นสถานะของ Output ที่เราต้องการให้เกิดขึ้น ส่วนลูกศรคือการบ่งบอกว่า ใน 1 ครั้งของการเปลี่ยน State หาก Input เป็นอะไร แล้ว State จะถูกเปลี่ยนไปที่ State ใด ซึ่งจะบ่งบอก Input โดยใช้ตัวเลขที่เห็นระหว่างลูกศร
          ซึ่งแผนภาพ State Diagram นั้นมี 2รูปแบบ คือรูปแบบนี้ เรียกว่า Moore และอีกรูปแบบคือ Mealy จะเปลี่ยนรูปแบบเล็กน้อย นั่นคือในวงกลมจะอธิบาย State และบนลูกศรจะบ่งบอกถึงสถานะของ Output แทน

          หลังจากวาด State Diagram เสร็จแล้วให้เราใส่ตัวเลขฐาน 2 แทนใน State แล้วนำไปเขียนตาราง State Table


          โดยในตาราง จะใส่ State ปกติ และ Input ลงไปก่อนตามรูปแบบการเขียนตารางทั่วไป และจากนั้นจึงนำส่วนแรกมาพิจารณาเพื่อหา State ถัดไป (next state) โดยจะดูจาก State Diagram ว่าลูกศรมี Input logic เป็นอะไร จะทำให้ State นั้นๆ เปลี่ยนไปที่ State ใดบ้าง เมื่อเสร็จแล้วจึงดู Output ว่า State ใดมี Output เป็นอย่างไร โดยอ้างอิงจาก Current State
เมื่อเสร็จแล้วจึงเริ่ม ใส่ logic ของ Flip-Flop ลงไปในในตาราง โดยเทียบตารางของ Flip-Flopเกี่ยวกับ Current State และ Next State ว่าการเปลี่ยนแปลงแบบนี้จะต้องให้ Logic ที่ขาของ D (ในกรณีที่ใช้D-type Flip-flop) และขาของ J K (ในกรณีที่ใช้ JK Flip-flop) เป็นอย่างไรบ้าง ดังสไลด์ ด้านล่าง



          หลังจากนั้นจึงสร้าง Boolean function สำหรับ Input ที่ขา D , JK โดยการนำ Current State + Input เป็นตัวตั้ง และให้ Output เป็นตาราง D-type , JK  โดยเมื่อได้ Boolean function แล้วก็นำมาเขียนวงจรตามสมการที่ได้ และต่อจริงก็เสร็จ ดังรูป



ปัญหา/สิ่งที่ไม่เข้าใจ
          -พอเริ่มทำอะไรที่มันเยอะขึ้นแล้วรูปสึกว่าสายไฟไม่ค่อยจะพอ ทำให้เสียเวลาในการยืมของจากเพื่อน และเวลาในการพยายามยุบอยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถต่อออกมาได้
****ความประทับใจ****

          -ผมเริ่มรู้สึกชอบวิชานี้มากขึ้นเนื่องจากการทำงานต่างๆของวงจรที่ได้รู้เจ๋งและน่าค้นหามากขึ้น มันดูสามารถต่อยอดและทำอะไรได้หลายอย่างดี ทำให้ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เรียนวิชานี้มากกว่าวิชาอื่นๆ

No comments:

Post a Comment