สิ่งที่ได้เรียนรู้ Week4
-ได้เรียนรู้การใช้ Karnaugh Maps เพื่อลดรูปวงจร Logic gate แทน Boolean Algebra ซึ่งทำให้เรารู้ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายกว่าถึงแม้ตอนแรกจะรู้สึกยากก็ตาม ซึ่งก่อนอื่นเราจะต้องเขียนตาราง Logic ขึ้นมาก่อนโดยรูปแบบตารางจะแตกต่างกันดังรูป
หรือ Karnaugh Maps จะมีรูปแบบที่เหมือนตารางที่ไว้เทียบค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้าใต้ดิน (นำค่า Input ตั้งเป็นกรอบในแนวแกน x,y และนำ Output มาใส่ในตารางให้ตรงกับกรณีในแกน x,y) โดยวิธีหาคำตอบคือการวงกลมเลข1 ที่อยู่ติดกัน/หากพับตารางอีกฟากมาแล้วอยู่ติดกันก็สามารถวงได้เช่นกัน และการวงจะต้องครอบคลุมเลข1 จำนวน 2ยกกำลังn ตัวเท่านั้น ตัวอย่าง
**** และยังสามารถทำในแบบ POS ได้ด้วย(สนใจ Output ที่เป็น0) ตัวอย่าง
ทั้งนี้ Karnaugh Maps สามารถจับกลุ่มวงกลมได้อีกแบบคือ หากจับตารางพับแล้วเลข 1 อยู่ติดกันก็สามารถนำมาใช้ในการคำนวณ หา logic gate ได้เช่นกัน
-ได้รู้คำแนะนำว่าเมื่อไหร่ควรใช้วิธีไหนในการหาสมการสุดท้ายเพื่อต่อวงจรอย่างง่ายกับตารางด้านล่าง
โดยจากตารางสามารถสรุปได้ว่า เมื่อวงจรมี Input ที่มากขึ้น จะเกิดความซับซ้อนของวงจรมากขึ้น ทำให้การคำนวณด้วยมืออาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเนื่องจากอาจเกิดความผิดพลาดจากการยุบวงจรได้สูงมาก ดังนั้น วิธีการคำนวณควรจะเลือกในรูปแบบที่เหมาะสม และสะดวกต่อตัวเรามากที่สุด -ได้เรียนรู้ทฤษฎี De Morgan (De Morgan's Theorems) เป็นทฤษฎีการทดแทนกันของ gate ใช้ได้เมื่อต้องการยุบวงจร,เปลี่ยนรูปแบบของวงจรและการใช้งาน gate ทดแทนกันเวลามี gate ไม่พอ ซึ่ง gate แต่ละตัวที่จะสามารถทดแทนกันได้ มีความสัมพันธ์กันดังนี้
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้
*สรุปในอีกความเข้าใจหนึ่งคือการยุบวงจรจากวงจรที่สำเร็จอยู่แล้วโดยมีหลักการเขียนสมการคงเดิม(ผ่านnot gate-->Abar , or gate-->A+B , and gate-->AB) เพิ่มเติมคือการแตกบาร์
หลักการ
*ข้อควรระวัง (กลัวตัวเอง งงเองเลยจดสรุปไว้ :3)
สิ่งที่ไม่เข้าใจ/ปัญหาที่เกิดขึ้นใน Week 4
- เข้าใจและทำเป็นในทุกๆเรื่อง แต่ว่ายังไม่เห็นว่า De Morgan จะได้ใช้ในตอนไหน เพราะว่าทุกๆครั้งก่อนจะเริ่มทำงาน ก็ต้องออกแบบวงจรให้เหลือน้อยและเรียบง่ายมากที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะใช้ทฤษฎี De Morgan จึงเป็นเรื่องที่ไม่เห็นภาพว่า เมื่อไหร่ถึงจะได้ใช้งานมัน แต่รู้ไว้ก็ดีกว่าไม่รู้ครับ :D
- Karnaugh Maps ดูเผินๆเหมือนง่าย แต่กว่าจะทำความเข้าใจแล้วทำได้นี่นานมากเลยครับ บางทีดูๆไปก็รู้สึกงงๆในบางที
No comments:
Post a Comment