สรุปการเรียนรู้ Week 5
-ได้เรียนรู้ว่าเจ้าหลอด
LED ที่ใช้แสดงผลเป็นตัวเลขและตัวอักษรต่างๆนั้น
ก็มีความซับซ้อนพอสมควร ที่ต้องจ่ายไฟเข้าตามขาต่างๆ
เพื่อที่จะให้เกิดเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรที่เราต่างการออกมา
โดยปกติแล้วการต่อ Input 4
ตัวเพื่อให้ได้ทั้งหมด 4 bits นั้นสามารถสร้างสรรค์
Output ได้ถึง 16
ตัว ดังนั้น ในหนึ่ง 7 segment จะแสดงได้ถึง 16 ตัว นั่นก็คือเลขฐาน 16(0-9,A-F) ดังนั้นการจะต้องแสดงเป็นเลขฐาน 10 จึงต้องใช้ความรู้เรื่อง BCD(Binary Coded Decimal) ซึ่งจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
-ได้รับความรู้เรื่อง BCD ‐ Binary Coded
Decimalเป็นวงจรเข้ารหัส ที่ทำหน้าที่แปลงเลขฐานสิบ
เป็นเลข BCD (Binary-Coded-Decimal) ดังในรูป
โดยจากในรูปสามารถอธิบายได้ว่า Input ที่ได้มาไม่สามารถใช้โดยตรงได้หากต้องการแสดงผลเป็นเลขฐาน
10 เนื่องจาก 7 segment 1ตัวจะแสดงค่าได้ถึงฐาน 16
ดังนั้นเราจึงต้องนำ Input มาเปลี่ยน logic และเพิ่ม Output
มากขึ้นเป็น
8 ตัว จะเปรียบเสมือนตัวทด นั่นคือเมื่อเลข4 bitsหลังถึง 10
จะทดเลขหลักนั้นขึ้นมาที่ 4bits หน้า และแสดงผลที่ 7 segment ตัวหน้าแทน
ทำให้การแสดงค่าใน 7 segment แต่ละตัว ไม่เกินเลขฐาน 10
โดยวิธีการทำตามตารางที่อาจารย์ได้ให้ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการคำนวณลดรูป
logic gate เพื่อใช้ในการต่อนั้น การจะทำวงจรเลขฐาน 10 นั้น ต้องมี Input
4
ตัว และ Output 8 ตัว ซึ่งลำบากแน่ๆต่อการคำนวณมือ
ดังนั้นจึงต้องใช้โปรแกรมในการคำนวณสมการเพื่อหาวิธีการต่อ logic gate ที่ดีที่สุดออกมา
โดยการป้อน Input คือตารางช่อง Binary และ Output เป็นตารางช่อง
BCD จะทำให้ได้วงจรดังรูป
- ได้ความรู้เรื่องการใช้ Encoder นั่นก็คือ วงจรลอจิกซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนจำนวน/ตำแหน่ง
Input ที่ใส่เข้าไป (ตั้งแต่ 0-N) ให้เป็นOutput
เป็นรหัสฐาน 2 จำนวน M bits(ขึ้นอยู่กับตัววงจรว่าจะมีจำนวน Input
ทั้งหมดกี่ตัว ,
Input 4
ตัว Output 2ตัว(แสดงได้ทั้งหมด 4กรณี),Input 8ตัว Output 3ตัว(แสดงได้ทั้งหมด 8กรณี))
โดยตำแหน่งของ
Input เราจะเป็นคนกำหนดเอง และ Output ที่ได้จะเป็น Output จากตำแหน่งที่มากที่สุดของ Input โดยไม่สนใจ
Input ที่ตำแหน่งน้อยกว่า
** x แสดง Input ที่ไม่ต้องสนใจก็ได้ **
- รู้จัก Multiplexer(Mux) และ Demultiplexer(Demux) ซึ่งเปรียบเสมือน
Relay ในทาง logic gate ไว้คอยเลือกทางเข้า /ออก ของ Input โดย Mux
จะอยู่ในรูปแบบของการเลือก
Input ที่จะออกมาทาง Output และแบบ Demux จะเป็นรูปแบบการเลือก
Output ที่จะให้ Input ออกไป
Mux

Demux
โดยวิธีการเลือก Input / Output นั้น จะเป็นการป้อน
logic เข้าไปที่ Selector(a,b) ช่อง A จะเป็น 00 , B 01 , C
10 , D 11 ดังนั้น ช่องทุกช่องจะเกิดการปิดวงจรเมื่อมีการป้อน Logic เข้าไปที่ Selector
ตามที่เขียนไว้ข้างต้น
และทุกๆช่องจะไม่มีทางเปิดได้พร้อมกัน
สรุปในอีกความเข้าใจหนึ่งคือให้มอง A-D เป็นเลขฐานสิบ
นั่นคือ 0-3 หากต้องการจะเปิดช่องไหนให้จ่าย logic เข้าไปที่ a
,b เป็นรหัสฐาน2 โดย b
เป็น
bit ที่ 2 และ a เป็น bit ที่ 1 โดยรหัสเลขฐาน2 ตรงกับเลขฐาน 10 ช่องไหน
ก็จำทำการเปิดช่องนั้นๆ
ปัญหาที่เกิดขึ้น
-ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ใบนางทีที่ต่อสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด
จะเกิดการสับสนเกิดขึ้นว่า สายนี้ต่อเข้าที่ไหน ทำให้ตาลายมากๆ
จนต่อผิดบ้างถูกบ้าง สุดท้าย
เราต้องมานั่งวาดเป็นวงจรลงในแผ่นกระดาษทำให้เราเริ่มต่อถูกมากขึ้น
จนสำเร็จในที่สุด :D